ด้านทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ
จากผลกระทบดังกล่าว
แสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของโลกทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ
ส่งผลให้ทุกประเทศตระหนักและให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
เกิดการรณรงค์ กำหนดนโยบาย กฎหมายต่าง ๆ
เพื่อลดผลกระทบลดความเสียหาย
รวมถึงฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนในระยะยาว เช่น
มาตรการประหยัดพลังงาน
การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียวหรือพลังงานสะอาด
การจัดการขยะด้วยหลัก 8R (Rethink, Reduce, Reuse, Recycle,
Repair, Regift, Recover และ Refuse)
การปลูกป่าทดแทน การลดการใช้พลาสติก การคัดแยกขยะก่อนทิ้ง
การนำขยะจากอาหารหรืออุตสาหกรรมไปเป็นวัตถุดิบในการสร้างก๊าซชีวภาพ
น้ำมันไบโอดีเซล เป็นต้น
องค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN)
ยังได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)
ซี่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน
โดยไม่ลิดรอนความสามารถในการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นหลัง
ซึ่งได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558
ครอบคลุมช่วงระยะเวลาที่ต้องบรรลุภายใน 15 ปี
เป็นทิศทางการพัฒนาที่ทุกประเทศที่ต้องดำเนินการร่วมกันมาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2559 ไปจนถึงปี พ.ศ. 2573
โดยกำหนดให้มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development
Goals: SDGs) ทั้งหมด 17 เป้าหมาย
เป็นแนวทางให้แต่ละประเทศดำเนินการร่วมกัน